แล้วบรรดาข้าราชการหนุ่มของกษัตริย์ได้แนะนำให้ทำการเสาะหาหญิงพรหมจารีย์ที่งดงามในนามของกษัตริย์
หญิงสาวพรหมจารีย์ทั้งหลายต้องอยู่ภายใต้การดูแลของเฮกัย ข้าราชการของกษัตริย์ ผู้ที่ปกครองดูแลผู้หญิงเหล่านั้น
เนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้นำโมรเดคัยมาจากกรุงเยรูซาเล็ม
ชื่ออีกชื่อหนึ่งของเอสเธอร์คือฮาดาชาห์
เอสเธอร์เป็นลูกสาวของลุงของเขา
เฮกัยได้จัดเตรียมเครื่องสำอางและอาหารให้กับเธอ และเขาได้มอบหมายให้คนรับใช้ผู้หญิงเจ็ดคนจากพระราชวังของกษัตริย์คอยรับใช้เธอ
เอสเธอร์ไม่ได้บอกใครเกี่ยวกับชนชาติหรือญาติๆ ของเธอ เพราะโมรเดคัยได้สั่งไม่ให้เธอบอกพวกเขา
เมื่อผู้หญิงสาวคนหนึ่งได้เข้าเฝ้ากษัตริย์ สิ่งใดก็ตามที่เธอปรารถนาก็จะได้รับการประทานให้แก่เธอ
ผู้หญิงสาวคนหนึ่งจะได้กลับมาเข้าเฝ้ากษัตริย์อีกครั้งเมื่อพระองค์ทรงโปรดปรานเธออย่างมากและได้ทรงเรียกให้เธอมาเข้าเฝ้าอีกครั้ง
เธอไม่ได้ทูลขอสิ่งใดเว้นแต่สิ่งที่เฮกัยข้าราชการของกษัตริย์ ผู้ที่ปกครองดูแลผู้หญิงทั้งหลาย ได้แนะนำเธอ
เอสเธอร์ถูกนำไปเข้าเฝ้ากษัตริย์อาหสุเอรัสในเดือนที่สิบ ซึ่งเป็นเดือนเทเบท ในปีที่เจ็ดของการครองราชย์ของพระองค์
กษัตริย์ได้ทรงรักเอสเธอร์ยิ่งกว่าผู้หญิงคนอื่นทั้งหมด และเธอได้รับความโปรดปรานและความกรุณาเฉพาะพระพักตร์ของพระองค์ มากยิ่งกว่าหญิงพรหมจารีย์คนอื่นทั้งหมด ดังนั้นพระองค์จึงได้ทรงสวมมงกุฏบนศีรษะของเธอและได้แต่งตั้งเธอให้เป็นราชินี
บิกธานและเทเรชได้เสาะหาที่จะทำอันตรายต่อกษัตริย์อาหสุเอรัส
ผู้ชายทั้งสองคนถูกแขวนห้อยลงมาจากตะแลงแกง